วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สบู่ก้อนน้อยนิด..


คนที่ใช้สบู่ก้อนเป็นประจำ เวลาเหลือก้อนกะจิ๊ดริด ก็ถูตัวไม่มันส์แล้ว ใช้ไม่เต็มมือ...ส่วนใหญ่ก็จะทิ้งลงขยะไปเลย ไม่เสียของแล้วล่ะคราวนี้ ลองรวบรวมพวกสบู่ที่เหลือๆเอาไว้ แล้วนำไปหลอม ต้มกับน้ำให้พอเหมาะจนละลาย แล้วก็เติมใส่ขวดหัวปั๊ม(ที่เราเคยเก็บสะสมไว้) เอาไปใช้ล้างมือได้เลยค่ะ เห็นม่า...ไม่เสียของเลย แถมไม่ต้องไปซื้อสบู่เหลวล้างมือให้เปลืองสตังค์ด้วย อินเทรนด์สุดๆ
ลองทำใช้ดูนะคะ

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ถ่ายรูปสมัครงาน


หลายๆคนอยู่ในช่วงสมัครงานใหม่ ต้องเตรียมทั้งจดหมายสมัครงาน เอกสารการศึกษา ที่สำคัญก็คือ รูปถ่าย เดี๋ยวนี้เราอาจไม่จำเป็นต้องไปถ่ายที่ร้านถ่ายรูปแล้ว สามารถประหยัดค่ารูปได้เยอะเลย โดยการสร้างฉากเอง อาจใช้ผ้าม่านสีฟ้าขึงให้ตึง หรือใช้กระดาษโปสเตอร์สีขาวมาทำฉากหลังแบบง่ายๆ เสร็จแล้วก็แต่งตัวให้หล่อ ให้สวย แล้วให้คนใกล้ชิดถ่ายให้ ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน เอาไปให้ร้านถ่ายรูปพริ้นท์ให้
ยังไงก็ยังถูกกว่าใบละร้อยก็แล้วกัน

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พกขวด ถุงผ้า กันเถอะ!

เคยตั้งคำถามกับตัวเองมั้ยว่า....ทำไมเดี๋ยวนี้ น้ำดื่มยังต้องซื้อกันเลย ทั้งๆที่น้ำมีอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้ว เราทุกคนในโลกมนุษย์นี้มีสิทธิได้ดื่มกินโดยไม่น่าจะเสียสตางค์เลย... สมัยก่อนเรากินก๋วยเตี๋ยวแถมน้ำดื่มฟรี แต่เดี๋ยวนี้คิดอย่างต่ำ 2 บาท ยิ่งถ้าไปกินที่ห้างสรรพสินค้าด้วยแล้ว โน่น...ขวดละ10-15บาททีเดียว ทำไมเราไม่มาสร้างนิสัยประหยัดและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกันล่ะ? โดยการพกขวดเปล่าที่เติมน้ำดื่มจากบ้านพร้อมกับถุงผ้าเวลาไปข้างนอกทุกครั้ง เราก็จะได้ไม่เสียเงินไปอย่างไร้สาระ ในเมื่อเราสามารถประหยัดได้ใช่มั้ยคะ. ว่าแต่เรารีบลงมือทำกันเลยนะ! อย่าลืมพกน้ำเปล่ากับถุงผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน สร้างให้เป็นนิสัยเลย....
ป.ล.ทราบมั้ยคะว่า ถุงขยะและขวดพลาสติกทั้งหลายบนโลกเรานี้ ถ้าเรียงเป็นแนวยาว มันจะยาวเป็นหลายๆล้านไมล์ไปถึงดวงจันทร์และพันกันหลายๆรอบดวงจันทร์เลยทีเดียว....น่ากลัวจัง!!

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พลังงานฟรีๆ


เดี๋ยวนี้...ใครๆก็ต้องสำนึกถึงการอนุรักษ์โลกกันแล้ว และจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะผลภัยพิบัติจากธรรมชาติที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ที่ได้สะสมมาตั้งแต่อดีต ได้ปรากฎให้เห็นถี่ๆขึ้น และเพิ่มดีกรีความรุนแรงเรื่อยๆ เราจึงละเลยความรับผิดชอบต่อโลกใบน้อยนี้ของเราไม่ได้เลย ก็ถ้าโลกนี้เสียหาย แล้วเราจะไปอาศัยอยู่ที่ไหนล่ะ? ...เริ่มจากเครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่นซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดในบ้านก็ว่าได้ เราก็จัดการรวมเอาสองเครื่องนี้ให้ทำงานร่วมกันซะ หลักการง่ายๆ คือ ใช้ความร้อนที่เหลือใช้จากคอมเพรสเซอร์แอร์มาทำน้ำร้อนเพื่อใช้อาบโดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเลย เรียกระบบ Heat Recovery Water Heater ซึ่งจะติดตั้งถังสำหรับเก็บน้ำร้อนไว้ได้ 24-48ชั่วโมงเลยทีเดียว จึงสามารถใช้น้ำอุ่นได้แม้ไม่ได้เปิดแอร์ แต่ระบบนี้คุณต้องลงทุนประมาณ 2 หมื่นบาท สำหรับอุปกรณ์ครบชุด ซึ่งช่วยคุณประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 10-20% ไปตลอดกาล....รู้แล้วรีบวางแผนกันได้เลยนะคะ อ้อ! แถมอีกนิดนึงเวลาซักผ้าเสร็จ เราลองย้ายราวตากผ้าไปวางไว้ด้านหลังของเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่ซิคะ จะทำให้แห้งเร็วขึ้นเยอะเลย....
ข้อมูลจากโพสต์ทูเดย์

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เคล็ดไม่ลับ...รักษาเฟอร์นิเจอร์


คนรักบ้าน รักเฟอร์นิเจอร์ เชิญทางนี้...เรามีเคล็ดไม่ลับมาฝากจ้า...ก็แหม...จะทนดูเฟอร็นิเจอร์ที่ซื้อมาแพงๆ ดูหม่นหมอง เปรอะเปื้อนได้ยังไง เรามาดูวิธีรักษากันเถอะ
1.เฟอร์นิเจอร์ไม้แบบโชว์ เมื่อใช้งานไปได้ประมาณ 6 เดือน ผิวของไม้ที่เคยเงางามก็จะเริ่มหมองคล้ำ เก่าลง เราควรทำความสะอาดโดยการปัดฝุ่นออก และพ่นด้วยน้ำยาบำรุงรักษาเนื้อไม้ ก่อนทำการขัดเบาด้วยผ้า ผิวไม้จะกลับมาดูเงางาม น้ำยาจะทำหน้าที่เป็นครีมเคลือบบางๆ มิให้น้ำหรือฝุ่นเกาะติดง่ายๆ ส่วนคราบน้ำที่ซึมลงไปในพื้นไม้ เช่น คราบแก้วน้ำเย็นที่วางโดยไม่มีจานรอง ให้ใช้ทิชชู่ป้ายน้ำมายองเนส 2
ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาป้ายกดบนคราบน้ำทิ้งไว้ 15 นาที แล้วค่อยนำกระดาษทิชชู่ขึ้น ถ้าพบว่ายังมีคราบเหลืออยู่ให้กดทับไว้อีกจนคราบน้ำนั้นหายไป
2.เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนังแท้ เฟอร์นิเจอร์หนังแท้ ที่ดูหรูหราเป็นธรรมชาติ ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากพอสมควร โดยห้ามใช้สารเคมีชนิดรุนแรงเด็ดขาด จำพวกน้ำมันสน น้ำยาขัดเงา น้ำยาที่เป็นกรดต่างๆ จะต้องเลือกใช้น้ำยาที่ออกแบบมาเฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์หนังแท้เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้หนังแห้ง เกิดรอยแตก กระด้าง ส่วนการทำความสะอาดนั้นแสนง่ายด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นบิดให้หมาด หรือผสมแชมพูอ่อนๆ หากสกปรกมากให้ใช้น้ำมันจักรหรือน้ำยาทำความสะอาดหนังแท้โดยตรง แล้วหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกแสงแดด เพราะจะทำให้หนังแข็งกระด้าง
3.เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนังเทียม หนังเทียมส่วนใหญ่ทำจากวัสดุ พียู (PU) กับ พีวีซี (PVC) ที่เลียนแบบเหมือนหนังแท้ เราควรหลีกเลี่ยงน้ำยาประเภทสารทำละลายต่างๆ เช่น น้ำมันสน ทินเนอร์ แอลกอฮอล์ หรือน้ำมันก๊าด ส่วนการทำความสะอาด ก็ให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด หรือน้ำแชมพูอ่อนๆเช็ด หากสกปรกมากให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปเช็ด หลีกเลี่ยงแสงแดดซึ่งจะทำให้หนังกรอบเสีย
4.เฟอร์นิเจอร์ที่มีกระจกเป็นองค์ประกอบ ทำความสะอาดโดยใช้ผ้าชามัวร์หรือเสื้อยืดผ้าฝ้ายตัวเก่าเช็ดร่วมกับน้ำยาเช็ดกระจก หรือน้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือแอมโมเนียผสมน้ำ ก็ใช้แทนกันได้
เท่านี้...ก็ทำให้เฟอร์นิเจอร์สุดรักสุดหวงกลายเป็นของใหม่ได้อีกครั้งแล้ว....
จากโพสต์ทูเดย์

วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ช้อปดอกเบี้ย...แบงค์


ณ.เพลานี้...ค่าครองชีพพุ่งกระฉูด เงินในกระเป๋าหดแฟบลงทุกที เงินฝากในแบงค์ที่เคยให้ดอกกล้อมแกล้มพอค่าขนม นม เนย ตอนนี้ก็ต่ำเตี้ยติดดิน แทบเป็นศูนย์ สวนทางกับดอกกู้ที่พุ่งปรี๊ด.... อย่ากระนั้นเลย เรามาหาแบงค์ที่พอให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าแบงค์อื่นๆกันเถอะ (แม้จะไม่สูงเท่าที่เราอยากได้ ก็ยังดีกว่านะ) ลองดูที่ ธนาคารเกียรตินาคิน เห็นเค้าให้ดอกเบี้ยตามนี้...
เงินฝากประจำ 24 เดือน อัตราดอกเบี้ยที่ 2.00% ต่อปี
เงินฝากประจำ 18 เดือน อัตราดอกเบี้ยที่ 1.75% ต่อปี
เงินฝากประจำ 12 เดือน อัตราดอกเบี้ยที่ 1.30% ต่อปี
ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2552 จนกว่าธนาคารจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
http://www.kiatnakin.co.th/
tel 0 2680 3133-4
หรือจะรอพันธบัตรวายุภักษ์ของรัฐบาลที่วางแผนจะออกมาเร็วๆนี้ก็ดีนะ แต่ต้องคอยติดตามข่าวอีกที
.....อยู่อย่างจน จะไม่มีวันจน แต่ถ้าอยู่อย่างรวย จะไม่มีวันรวย....

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

ไม้แดก!


ตั้งชื่อหัวข้อไม่สุภาพไปหน่อยนะคะ แต่ขอใช้คำไทยเดิมนี่แหละ คงไม่มีใครว่าอะไร (รึเปล่า?) ยุคนี้หากว่าสามารถช่วยตัวเองประหยัดอะไรได้ก็ควรทำกันนะ อย่างเช่น การปลูกพืชผักสวนครัว อาหารจำเป็นในชีวิตประจำวัน เราไม่จำเป็นต้องมีที่ดินเยอะๆ ก็สามารถลงมือปลูกได้เลย โดยใช้กระบะดินเผายาวๆ ใส่ดินผสมปุ๋ยให้ร่วนดี หลายๆกระบะ แล้วโรยพวก เมล็ดพริกขี้หนูเอย เม็ดแก่ๆของกะเพราเอย
โหระพา หัวหอมที่เหลือในครัวนำไปปักในดิน ก็จะกลายเป็นต้นหอม กระชายที่ใช้เหลือก็ฝังลงไปปลูกได้ ตะไคร้ก็เช่นกัน ปักลงดินเลย
หรือถ้าได้เมล็ดพันธ์ผักต่างๆ เช่น ผักคะน้า ก็โรยลงกระบะ แล้วให้ตากแดดล่ะ เพราะชอบแดด แค่นี้...เราก็มีพืชผัก ไว้ใช้ในครัวกันมากมายแล้ว ไม่ต้องซื้อหา แถมเป็นออร์แกนิค ปลอดสารพิษซะด้วย